วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ความเป็นมาอำเภอประโคนชัย

อำเภอประโคนชัย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อำเภอประโคนชัย
แผนที่จังหวัดบุรีรัมย์ เน้นอำเภอประโคนชัย
วัฒนธรรมเลิศล้ำ เมืองต่ำปราสาทหิน ถิ่นข้าวมะลิหอม
ปลาจ่อมรสดี ร้อยพันปักษี คนมีน้ำใจงาม
ข้อมูลทั่วไป
อักษรไทยอำเภอประโคนชัย
อักษรโรมันAmphoe Prakhon Chai
จังหวัดบุรีรัมย์
รหัสทางภูมิศาสตร์3107
รหัสไปรษณีย์31140
ข้อมูลสถิติ
พื้นที่890.121 ตร.กม.
ประชากร136,232 คน (พ.ศ. 2558)
ความหนาแน่น153.04 คน/ตร.กม.
ที่ว่าการอำเภอ
ที่ตั้งที่ว่าการอำเภอประโคนชัย ถนนโชคชัย-เดชอุดม ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ 31140
พิกัด14°36′24″N 103°7′18″E
หมายเลขโทรศัพท์0 4467 1488
หมายเลขโทรสาร0 4467 1488

สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย
ประโคนชัย เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์

ชื่อเดิม[แก้]

เดิมคือเมืองตะลุง (อยู่ที่บ้านตะลุงเก่า ตำบลโคกม้า ปัจจุบันย้ายมาอยู่ตำบลประโคนไชย) คำว่า "ตะลุง" หมายถึง เสาใหญ่ หรือ เสาหิน สำหรับผูกช้าง (ซึ่งเชื่อกันว่า ร.1 ทรงผูกช้าง ณ บริเวณที่อำเภอประโคนชัย) เมื่อ ร.ศ.116 เมืองตะลุงได้ตั้งเป็นอำเภอชื่อ อำเภอประโคนไชย[1] ในปี 2460 เปลี่ยนเป็น อำเภอตะลุง ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น อำเภอประโคนชัย ในปี 2482

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

อำเภอประโคนชัยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

อำเภอประโคนชัยแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 16 ตำบล 182 หมู่บ้าน
1.ตำบลประโคนชัย(Prakhon Chai)14 หมู่บ้าน9.ตำบลไพศาล(Phaisan)16 หมู่บ้าน
2.ตำบลแสลงโทน(Salaeng Thon)7 หมู่บ้าน10.ตำบลตะโกตาพิ(Tako Taphi)11 หมู่บ้าน
3.ตำบลบ้านไทร(Ban Sai)12 หมู่บ้าน11.ตำบลเขาคอก(Khao Khok)15 หมู่บ้าน
4.ตำบลละเวี้ย(Lawia)13 หมู่บ้าน12.ตำบลหนองบอน(Nong Bon)11 หมู่บ้าน
5.ตำบลจรเข้มาก(Chorakhe Mak)18 หมู่บ้าน13.ตำบลโคกมะขาม(Khok Makham)7 หมู่บ้าน
6.ตำบลปังกู(Pang Ku)14 หมู่บ้าน14.ตำบลโคกตูม(Khok Tum)10 หมู่บ้าน
7.ตำบลโคกย่าง(Khok Yang)9 หมู่บ้าน15.ตำบลประทัดบุ(Prathat Bu)8 หมู่บ้าน
8.ตำบลโคกม้า(Khok Ma)9 หมู่บ้าน16.ตำบลสี่เหลี่ยม(Si Liam)8 หมู่บ้าน

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

ท้องที่อำเภอประโคนชัยประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 17 แห่ง ได้แก่

ประชากรในตำบล[แก้]

      หมายถึงจำนวนประชากรได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
      หมายถึงจำนวนประชากรได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
อันดับ
(ปีล่าสุด)
ตำบลในอำเภอประโคนชัยพ.ศ. 2558[2]พ.ศ. 2557[3]พ.ศ. 2556[4]พ.ศ. 2555[5]พ.ศ. 2554[6]พ.ศ. 2553[7]พ.ศ. 2552[8]พ.ศ. 2551[9]
1ประโคนชัย20,61120,62820,60020,60420,54520,62820,54920,807
2ไพศาล11,81311,78911,76511,73611,65511,57711,51911,433
3จรเข้มาก11,11511,12411,11111,06311,06411,08110,98310,952
4ปังกู10,09610,0319,9969,9589,8709,8369,7489,740
5เขาคอก10,08810,03210,0139,9399,9249,8939,8109,752
6ละเวี้ย9,9349,9159,8879,8579,8059,8299,8349,802
7บ้านไทร9,4439,3849,3799,3619,3299,2959,2679,190
8หนองบอน7,9147,8657,8117,8067,7367,7057,6627,672
9ตะโกตาพิ7,4907,4197,3757,3257,2717,2107,2007,151
10โคกม้า7,4207,3877,3587,3217,2507,2017,1807,166
11แสลงโทน6,0796,0966,0556,0035,9465,9155,8705,857
12โคกตูม5,7605,7215,7055,6725,6615,6265,6055,578
13สี่เหลี่ยม5,7305,6875,6775,6465,6285,6275,5985,616
14โคกมะขาม4,3634,3934,4084,3534,3214,2954,2544,213
15โคกย่าง4,3114,3294,3204,3014,3064,2944,2874,281
16ประทัดบุ4,0654,0354,0564,0544,0564,0404,0233,980
รวม136,232135,835135,516134,999134,367134,052133,389133,190

แหล่งท่องเที่ยว[แก้]

ปราสาทบ้านบุ[แก้]

ตั้งอยู่ในโรงเรียนบ้านบุวิทยาสรรค์ ตำบลจระเข้มาก การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับทางไป ปราสาทเมืองต่ำ โดยปราสาทบ้านบุจะอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 2221 ห่างจากทางแยกเข้าปราสาทเมืองต่ำไปทางประโคนชัย 1.5 กม.

ปราสาทเมืองต่ำ[แก้]

ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถาน ในราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. 2478 และได้เข้ามาทำการบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2531 แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2539 ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งปราสาทหินเมืองต่ำ เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ศิลปะขอมโบราณ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16-17 มีลักษณะเป็นกลุ่มปราสาทอิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนศิลาแลงอันเดียวกัน เรียงเป็น 2 แถวตามแนวทิศเหนือใต้ แถวหน้า 3 องค์ องค์กลางมีขนาดใหญ่กว่าปรางค์อื่น ส่วนแถวหลังมีปรางค์อิฐจำนวน 2 องค์ วางตำแหน่งให้อยู่ระหว่างช่อง ของปรางค์ 3 องค์ ในแถวแรก ทำให้สามารถมองเห็นปรางค์ทั้ง 5 องค์ พร้อมกันโดยไม่มีองค์หนึ่งมาบดบัง ซึ่งเป็นรูปแบบที่แตกต่างจากปราสาทแห่งอื่นๆ ที่จะมีปรางค์องค์ใหญ่ตรงกลางและล้อมรอบด้วยปรางค์ขนาดเล็กกว่าทั้ง 4 มุม ปรางค์ประธาน ปัจจุบันมีสภาพให้เห็นเฉพาะฐานเท่านั้น โดยมีผนังเป็นรูป สี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมขนาด 7 x 7 เมตร โครงสร้าง โดยรวมนั้นมีลักษณะ เหมือนกับปรางค์บริวารทั้ง 4 องค์ จะต่างกันก็เพียงแต่ปรางค์ประธานมีมุขหน้า ส่วนปรางค์บริวารไม่มี ปรางค์ประธานจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และเป็นด้านที่มีประตูเข้าสู่ภายในองค์ปรางค์เพียงด้านเดียว ส่วนที่เหลืออีก 3 ด้าน คือ ทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตกนั้น ทำเป็นรูปประตูหลอก จากการขุดค้นเพื่อทำการบูรณะ ปราสาทเมืองต่ำของกรมศิลปากร ได้ขุดพบหน้าบันและทับหลังของมุขปราสาทปรางค์ประธานทำจากหินทราย หน้าบันจำหลักเป็นรูปพระอินทร์ประทับนั่งในท่ามหาราชลีลาสนะ คือ นั่งชันเข่าขวาขึ้น ขาซ้ายพับ เหนือช้างเอราวัณสามเศียรในซุ้มเรือนแก้วอยู่บน หน้ากาล ลักษณะของซุ้มหน้าบันนี้ เป็นศิลปะเขมรแบบบาปวน มีอายุราวครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 16 ปราสาททั้ง 5 จะล้อมรอบด้วยระเบียงคดซึ่งมีทับหลังและซุ้มประตูแกะสลักด้วยหินทรายอย่างงดงาม มีสระน้ำ หรือบาราย กรุด้วยศิลาแลง ทั้ง 4 ทิศ มุมสระมีพญานาคหินทราย 5 เศียร ทอดตัวยาวรอบขอบสระน้ำ ชั้นนอกปราสาทมีกำแพงศิลาแลงอีกชั้น

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน[แก้]

ห่างจากตัวอำเภอประโคนชัยเพียง 3กิโลเมตร ตามทางหลวงสาย ประโคนชัย - บุรีรัมย์ เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีทิวทัศน์ที่ สวยงาม เป็นที่ตั้งของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินเก่า มีพื้นที่ประมาณ 3,568 ไร่ เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายสัมพันธมิตรใช้เป็นที่จอดเครื่องบินเพื่อส่งเสบียงอาหาร และเมื่อสงครามยุติทางราชการจึงให้พื้นที่นี้เป็นสาธารณประโยชน์ และที่พักผ่อนของชาวอำเภอประโคนชัย มีนกน้ำชนิดต่าง ๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พบนกที่หาได้ยากในธรรมชาติ ได้แก่ นกอ้ายงั่ว ห่านเกรย์เลกหรือห่านเทาปากสีชมพู นกกาบบัว นกเป็ดหงษ์ เป็ดดำหัวดำ ฯลฯ เป็นแหล่งดูนกน้ำที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย เป็น พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญในระดับนานาชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติ

ชุมชนโบราณบ้านแสลงโทน[แก้]

เป็นชุมชนโบราณตั้งอยู่ในเขตบ้านแสลงโทน ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศใต้ ตามทางสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ระยะทาง 25 กิโลเมตร ทางหลวงตัดผ่ากลางชุมชนโบราณ มองเห็นคันดินเป็นแนวสูงประมาณ 5-7 เมตร อยู่สองข้างทาง ชุมชนโบราณแห่งนี้มีลักษณะเป็นรูปกลมรีวางตามแนวตะวันออก ตะวันตก ยาวประมาณ 5,756 เมตร กว้าง 1,750 เมตร มีคูเมืองโอบอยู่นอกคันดิน 3 ชั้น ปัจจุบันเหลือเพียงชั้นเดียว ใกล้คันดินด้านที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแสลงโทนในปัจจุบัน มีเนินดินซึ่งมีก้อนหินศิลาแลงกระจัดกระจายเข้าใจว่าเคยมีศาสนสถาน แต่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งศาลเจ้าพ่อแสลงโทน เรียกว่า ศาลปู่เจ้าหรือกระท่อมเนียะตา เป็นศาลเจ้า ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านแสลงโทนและชาวบ้านใกล้เคียง สร้างด้วยไม้ระแนง หลังคามุงกระเบื้องและพื้นเป็นปูนซีเมนต์ ทั้งคูน้ำคันดิน (ที่เหลืออยู่ริมทางหลวง) และเนินดินศาลเจ้าพ่อแสลงโทน ได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานแล้ว นอกจากนี้ยังพบหลักฐานอื่นที่สำคัญ คือ สระน้ำโบราณรูปสี่เหลี่ยมในเขตวัดแสลงโทน 2 สระ พบเศษภาชนะดินเผา โครงกระดูกมนุษย์ เครื่องประดับ เทวรูปเก่าและใบเสมาเก่า ซึ่งเข้าใจว่าบริเวณนี้เคยเป็นศาสนสถานสำคัญประจำชุมชนโบราณ

สถานศึกษา[แก้]

ประถมศึกษา[แก้]

มัธยมศึกษา[แก้]

สถาบันอาชีวศึกษา[แก้]

วัด[แก้]

  • วัดจำปา
  • วัดกลางประโคนชัย
  • วัดโคน
  • วัดสหมิตรนฤมาน
  • วัดแจ้ง
  • วัดโพธิ์
  • วัดชัยมงคล
  • วัดตาด่าน
  • วัดป่าหนองม่วง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น